รีพอร์ต
อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล ยังคงสร้างชื่อต่อไปด้วยการยิงคนเดียว 2 ลูก ช่วยให้ทีมบุกชนะเซาแธมป์ตัน 3-2 ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขยับขึ้นเป็นรองจ่าฝูงบาร์เคลย์ส พรีเมียร์ ลีก
นักเตะใหม่ชาวฝรั่งเศสยิงได้ในแต่ละครึ่ง โดยตีเสมอประตูของ กราเซียโน่ เปลเล่ ก่อนที่จะช่วยให้ทีมพลิกขึ้นนำ จากนั้นประตูของ ฮวน มาต้า ก็ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทิ้งห่าง และดาวยิงชาวอิตาลีอย่างเปลเล่ก็มายิงตีตื้นขึ้นมาเป็นลูกสุดท้ายของเกม ชัยชนะนัดนี้ทำให้ทีมปีศาจแดงลดช่องว่างจากทีมจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่พลาดท่าแพ้คาบ้านต่อเวสต์ แฮมเหลือเพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น
ลุค ชอว์ ต้องพักยาวไม่ได้ลงเล่นในเกมนี้ที่เจอกับต้นสังกัดเก่าของเขา หลังจากที่ขาหักในเกมกับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และ หลุยส์ ฟาน กัล ก็ได้เลือกเอา มาร์กอส โรโฮ เล่นเป็นแบ็คซ้ายในเกมนี้ ทำให้ ดาลี่ย์ บลินด์ กับ คริส สมอลลิ่ง ได้กลับมายืนคู่กันตรงใจกลางแนวรับ ขณะที่ เวย์น รูนี่ย์ และ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน กลับมามีชื่อเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยทางด้านมาร์กซิอัลได้ประเดิมสนามเป็นตัวจริงนัดแรกในพรีเมียร์ ลีก
เกมเริ่มต้นด้วยการที่ทั้ง 2 ฝั่งเน้นการครองบอลในแผงมิดฟิลด์ และก็เป็นเจ้าถิ่นที่ได้ประตูออกนำไปก่อนในนาทีที่ 13 เมื่อเปลเล่ยิงซ้ำจากจังหวะที่ ดาบิด เด เคอา ปัดลูกยิงของ ซาดิโอ มาเน่ มาเข้าทาง ศูนย์หน้าชาวอิตาลีซึ่งทำประตูได้จากโปรแกรมเดียวกันนี้เมื่อฤดูกาลก่อนแปเลียดเข้าไป และเด เคอาก็ดูหงุดหงิดแนวรับของทีมมากในจังหวะนี้
เมมฟิส เดปาย ได้โขกข้ามคานของ มาร์เท็น สเตเคเลนเบิร์ก ในนาทีที่ 24 ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังมองหาประตูตีเสมอ แต่ก็เป็นเรื่องยาก เมื่อ 11 ตัวของทีมนักบุญลงมาแพ็คเกมรับกันหมด รวมถึงวิ่งไล่กดดันทีมเยือนอย่างไม่ลดละ ซึ่งนี่เป็นแผนการเล่นของ โรนัลด์ คูมัน ที่ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก
ต้องขอบคุณที่ลูกทีมของฟาน กัลมาตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 34 จากฝีเท้าของนักเตะหมายเลข 9 มาร์กซิอัล เขาได้บอลในพื้นที่กรอบ 6 หลา ก่อนที่จะแต่งบอล 2 จังหวะแล้วแปผ่านมือสเตเคเลนเบิร์กเข้าไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเกือบพลิกขึ้นนำก่อนจบครึ่งแรก เมื่อเมมฟิสเล่นกับมาต้าในจังหวะเตะมุม นักเตะชาวสเปนจ่ายต่อให้บลินด์ยิงหลุดกรอบออกไปจากระยะใกล้ ถือเป็นฉากจบของ 45 นาทีแรกที่สนุกตื่นเต้นที่สนามเซนต์ แมรี่ส์
ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่ผู้จัดการทีมทั้ง 2 ฝั่งทำการปรับแท็คติค แมตต์ ทาร์เก็ตต์ ถูกเปลี่ยนออกให้ คูโค่ มาร์ติน่า ลงมาเล่นแทน ขณะที่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ก็ได้ลงมายืนแทนที่ มัตเตโอ ดาร์เมียน และในนาทีที่ 50 มาร์กซิอัลก็มาซัดประตูที่ 2 ของเขาในเกมนี้ นักเตะวัย 19 ปีได้บอลจากการส่งคืนหลังพลาดของ มายะ โยชิดะ ก่อนที่เขาจะหลุดไปปิดบัญชีด้วยความเยือกเย็น ทำเอาเสียงเชียร์จากกองเชียร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดดังกระหึ่มไปทั่วสนาม
เด เคอาได้โชว์ฟอร์มสมกับที่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรอีกครั้งด้วยการบินปัดลูกยิงของ โจเซ่ ฟอนเต้ จากเส้นประตู จากนั้นฟาน กัลก็เปลี่ยนตัวครั้งที่ 2 ส่งเอา บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ลงมาเล่นแทน ไมเคิล คาร์ริค
เซาแธมป์ตันพยายามที่จะยิงตีเสมอ แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็มายิงทิ้งห่าง เมื่อเมมฟิสยิงไปชนเสา บอลกระดอนมาเข้าทางมาต้าที่ยิงซ้ำเข้าไปทันที ถือเป็นประตูที่ 2 ของเขาในฤดูกาลนี้ หลังจากที่เคยยิงสวอนซี ซิตี้มาได้แล้ว
แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพยายามจะครองบอลให้จบเกม แต่เซาแธมป์ตันก็ไม่ย่อท้อ และพวกเขาก็มาได้ประตูตีตื้นจากจังหวะโขกของเปลเล่จากการครอสมาให้ของมาเน่ โดยที่เด เคอาหมดสิทธิ์เซฟ
นายด่านหมายเลข 1 ชาวสเปนรับบทพระเอกอีกครั้งเมื่อได้บินปัดลูกยิงของ วิคเตอร์ วานยาม่า ในช่วงท้ายเกม สุดท้ายทีมปีศาจแดงของฟาน กัลก็เก็บชัยชนะครั้งสำคัญกลับออกมาได้ ถือเป็นการเรียกความมั่นใจก่อนที่จะเตะเกมแคปิตอล วัน คัพในคืนวันอังคารนี้ ซึ่งจะพบกับอิปสวิช ทาวน์
สถิติ